ทนายอนันต์ชัย ไชยเดชโพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กน่าสนใจ บอกว่า ธนู เมื่อขึ้นสายแล้ว ต้องยิงให้เต็มเหนี่ยวและตรงตรงเป้าหมาย ! ขณะที่แม่ทัพออกรบอยู่บนหลังม้าได้เล็ง-ยิงลูกธนูออกไปยังศัตรูฝ่ายตรงข้าม ทุกดอกที่ยิงออกไปถูกศัตรูอย่างแม่นยำ จนศัตรูถึงแก่ความตาย และกำลังเล็งจะยิงอีก 1 ดอก ไปยังแม่ทัพของศัตรู ซึ่งหากยิงธนูดอกนี้ไปการรบครั้งนี้จะชนะทันทีคำพูดจาก เกมสล็อตมาใหม่
“รองคริษฐ์” คนดูแลจัดการเงิน “บิ๊กโจ๊ก” เข้าพบพนักงานสอบสวน
หัวหน้าชุด PCT ยันคดี มินนี่”ชุดจับกุมปฏิบัติตามขั้นตอนกฎหมาย
แต่ในขณะที่แม่ทัพกำลังจะยิงธนูนั้น มีพระราชโองการจากฮ่องเต้ว่า ให้ถอยทัพเพราะศัตรูขอเจรจา แม่ทัพจะทำอย่างไร ???
ถ้าถามผม ผมจะตอบว่า “ เกาทัณฑ์ เมื่อขึ้นสายแล้ว ก็ต้องยิงให้เต็มเหนี่ยว และตรงเป้าหมาย “ ถ้าผมเป็นแม่ทัพ ผมยิง แม้จะขัดราชโองการและแม้จะกลับมาถูกตัดหัวก็ตาม เพราะแม่ทัพจะชนะศึกครั้งนี้ทันที ศัตรูจะเกรงกลัวไม่กล้าต่อกรอีกต่อไป #ในสนามรบแม่ทัพย่อมใหญ่กว่าฮ่องเต้ แล้วถ้าท่านเป็นแม่ทัพ ท่านจะตัดสินใจอย่างไร ???? ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช ( ทนายกระดูกเหล็ก)
ทีมข่าวได้โทรศัพท์ไปสอบถาม ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช ให้อธิบายโพสต์ดังกล่าวว่า ต้องการสื่อถึงอะไร ทนายอนันต์ชัย บอกว่า ไม่มีอะไรมาก ก็แค่สงครามยังไม่จบอย่าพึ่งนับศพทหาร ตอนนี้พร้อมจะสู้ต่ออยู่แล้ว
ชี้แจงเลื่อนบิ๊กเซอร์ไพรซ์ เป็นวันที่ 5 ต.ค. เพราะมินนี่จะบินกลับต่างประเทศ
ส่วนเรื่องบิ๊กเซอร์ไพรซ์ก็ยังคงมีเหมือนเดิมแต่จากเดิมที่บอกว่าจะเปิดข้อมูลวันอังคารที่ 3 ต.ค.นี้ จะมีการเลื่อนเป็นวันพฤหัสที่ 5 ต.ค.แทน เนื่องจากวันที่ 3 ต.ค. ได้นัดพูดคุยให้คำปรึกษาเรื่องกฎหมายกับนางสาว สุชานันท์หรือ มินนี่ ผู้ต้องหาคดีเว็บพนันไว้ แต่ยังไม่คอนเฟิร์มเวลานัดหมาย
ทนายอนันต์ชัย บอกว่า ตัวเองไม่ได้เป็นทนายความทำคดีให้กับมินนี่ แต่เนื่องจากคดีนี้มีความเกี่ยวพันกับลูกความของตัวเอง จึงต้องพูดคุยให้คำปรึกษาด้านกฎหมายกับมินนี่ด้วย
ส่วนที่ต้องนัดพูดคุยกับมินนี่ในวันที่ 3 ต.ค.ซึ่งตอนแรกเป็นวันที่ทนายนัดหมายกับสื่อว่าจะเปิดข้อมูลบิ๊กเซอร์ไพรซ์ ก็เป็นเพราะว่ามินนี่กำลังจะกลับต่างประเทศแล้ว ทำให้ต้องเลื่อนนัดมาพูดคุยกับมินนี่ก่อน
ส่วนภาพของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล ที่เข้าไปแสดงความยินดีกับ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล หลัง ก.ตร.มีมติเห็นชอบ ให้ดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ คนที่ 14 จนหลายคนมองว่าเป็นการเคลียร์ใจกันแล้ว ซึ่งอาจมีผลต่อการสู้คดีหรือไม่
ทนายอนันต์ชัย บอกว่า ”อย่าเชื่อในสิ่งที่เห็น อาจจะไม่ได้เป็นอย่างที่คิดก็ได้” ส่วนเรื่องความสัมพันธ์ ของ 2 นายพล ทนายอนันต์ชัยบอกว่า ทั้งคู่ก็ไม่ได้ทะเลาะกัน และ การชิงตำแหน่ง ผบ.ตร.ก็ไม่ได้มีผลอะไรกับพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เพราะยังเหลือเวลากว่าจะเกษียณราชการอีกตั้ง 8 ปี
ขณะที่ความคืบหน้าคดีเรื่องการเรียกสอบปากคำบุคคลที่เกี่ยวข้องกับเส้นทางการเงินของเว็บพนัน ทนายอนันต์ชัย บอกว่า ส่วนของทีมทนายตัวเองก็จะดูแลทั้งตำรวจ 8 นายที่มีชื่อเข้าไปเกี่ยวข้อง รวมถึงกลุ่มสื่อและองค์กร ที่พบเส้นเงินเกี่ยวข้องในคดี
แต่เบื้องต้นเมื่อวานนี้จากที่ทีมข่าวปักหลักอยู่ที่ บก.น.5 ยังไม่พบว่ามีกลุ่มสื่อหรือองค์กรเข้ามาให้ปากคำกับชุดพนักงานสอบสวน PCT มีเพียง พ.ต.ท.คริษฐ์ ปริยะเกตุ รองผู้กำกับสอบสวน สภ.สำโรงเหนือ ที่มีข้อมูลว่าเป็นผู้จัดการดูแลเรื่องเงินให้กับ พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ เดินทางพร้อมทนายความเข้าไปให้ปากคำเท่านั้น